คอลลาเจนบำรุงผิว อายุ 40 ผิวแย่ลง ผิวสวยกระจ่างใสอ่อนกว่าวัยด้วย “Collagen”

0
99
คอลลาเจนบำรุงผิว

คอลลาเจนบำรุงผิว อายุ 40 ผิวแย่ลง ผิวสวยกระจ่างใสอ่อนกว่าวัยด้วย “Collagen”

คอลลาเจน บำรุงผิว อายุเพิ่มผิวแย่ลง ผิวสวยกระจ่างใสอ่อนกว่าวัยด้วย “Collagen” เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ประสิทธิภาพการทำงานต่างๆในระบบภายในร่างกายก็เริ่มเสริมสร้างหรือดูแลจุดต่างๆได้น้อยลงไม่เหมือนในแต่ก่อน โดยเฉพาะสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวอย่าง “คอลลาเจน”

ซึ่งในช่วงวัยเยาว์ร่างกายของเรามีการ ผลิตคอลลาเจน ได้เอง แต่พออายุมากขึ้น การผลิตคอลลาเจนก็จะค่อยๆ ลดลงไปตามช่วงวัย แต่ในที่จริงแล้ว ผิวหนังของเรามีหน้าที่สำคัญในการช่วยห่อหุ้มร่างกาย

แต่ถ้าเรามี คอลลาเจน ผิวพรรณกระจ่างใส เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น แลดูอ่อนวัย ก็สามารถช่วยเสริมสร้างบุคลิกเพิ่มความมั่นใจให้กับเรา สามารถอวดผิวสุขภาพดี สวยกระจ่างใส อ่อนกว่าวัย จนใครๆแอบอิจฉาคุณแบบไม่รู้ตัวเลยหละค่ะ …. คอลลาเจนผิวขาวจริงไหม ??

ผลิต-Collagen

Collagen เป็น โปรตีนชนิดหนึ่ง ที่มีอยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยโปรตีนที่สำคัญ 2 ชนิดได้แก่ Proteoglycan และ Glycosaminoglycans ซึ่งเป็นโปรตีนที่เป็นโครงสร้างหลักของผิว เล็บ เส้นผม กระดูก และข้อต่อ อีกทั้งผนังหลอดเลือด

มีหน้าที่ในประสานเนื้อเยื่อของผิวหนัง และเชื่อมต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกายไว้ด้วยกันซึ่งปกติทั่วไปในผิวหนังของเรา จะมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่ในจำนวนมาก จึงมีแรงคล้ายกับสปริงช่วยให้ผิวเกิดความยืดหยุ่น ซึ่งคอลลาเจนไม่ได้พบอยู่ในแต่ที่ผิวหนังส่วนนอกเท่านั้น

แต่ยังพบในอวัยวะภายในร่างกายของเราซึ่งมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบอยู่มากด้วยเช่นกัน ได้แก่ใน พังผืด (Fascia), กระดูกอ่อน, เอ็น, เอ็นกล้ามเนื้อและกระดูก

ซึ่ง คอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบหลักของชั้นผิว มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Keratin” โดยเคราติน ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่น เมื่อสารเคราตินในชั้นผิวลดลง จึงก่อให้เกิดริ้วรอยบนชั้นผิว ผิวขาดความชุ่มชื้น ผิวไม่เรียบเนียน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวดูแก่กว่าวัยนั้นเองค่ะ

คอลลาเจนในชั้นผิว

คอลลาเจนบำรุงผิว สาเหตุสำคัญที่ทำให้คอลลาเจนในร่างกายผละผิวลดลง

แสง UV เป็นตัวทำลาย คอลลาเจนในชั้นผิว ของเราโดยตรง เพราะสารอนุมูลอิสระไปทำลายเส้นใยของคอลลาเจนจึงทำร่างกายของเรา โดยเฉพาะผิวเสื่อมสภาพได้ง่ายและเร็วขึ้น

เช่น ผิวหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย รอยฝ้า ผิวไม่เรียบเนียนเต่งตึงร่วมไปถึงมลภาวะที่เราต้องพบปะกับมันในทุกๆวัน ก็มีส่วนทำให้เกิดการสะสมจนในที่สุดก็เข้ากระบวนการ การทำลายคอลลาเจนภายใต้ชั้นผิวหนัง ดังนั้นเราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ในช่วงเวลา 10.00 น. – 14.00 น. เพื่อไม่ให้ แสง UV ไปกระตุ้นสารอนุมูลอิสระ

คอลลาเจน-อันตราย

การเกิดอนุมูลอิสระ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตทำร้ายผิว เช่น การสูบบุหรี่ อันตรายกับคอลลาเจน

การขาด คอลลาเจน อันตราย ต่อผิว …. เมื่อคุณสูดเอาควันบุหรี่เข้าไป คุณดึงเอาสารเคมีกว่า 4000 ชนิดเข้าสู่ร่างกาย รวมทั้งอนุมูลอิสระที่ทำลายผิว สารเคมีเหล่านี้จะทำลาย คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นเส้นใยที่ทำหน้าที่คงความแข็งแรงและยืดหยุ่นของผิวที่อ่อนเยาว์ เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินอ่อนลดน้อยลง ผิวพรรณก็จะเริ่ม หย่อนคล้อย เหี่ยวย่น

การ ขาดคอลลาเจน และอีลาสติน เป็นสาเหตุของความเสียหายของผิวที่ไม่สามารถเรียกคืนกลับมาได้อีก และนิโคตินในบุหรี่ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เส้นเลือดของผิวหนังตีบตัน เลือดไม่ไหลเวียน ผิวแห้ง หมองคล้ำและซีด

ผู้ที่สูบบุหรี่ อาจเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย การสูบบุหรี่จึงเป็นสาเหตุให้ร่างกายผลิตเซลล์ เม็ดเลือดแดงน้อยลง และเนื่องด้วยเซลล์เม็ดเลือดแดง ที่น้อยลงนี้ ทำให้ผิวของคุณเริ่มที่จะสูญเสีย ความเปล่งประกายอย่างมีสุขภาพ

อายุที่เพิ่มมากขึ้นคอลลาเจนลดลง

โดยปกติแล้วร่างกายของคนเรา สามารถ ผลิต Collagen ได้เองอยู่แล้ว แต่เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ร่างกายของเราก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง ทำให้เราเริ่มมีริ้วรอย รูขุมขนกว้างขึ้น ผิวไม่กระจ่างใส ในวัยเด็กร่างกายเรามีปริมาณคอลลาเจนอยู่เยอะ จึงไม่มีปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย แต่พอโตเป็นวัยรุ่น เริ่มมีปัญหาผิวหน้ามัน รูขุมขนกว้าง สิว ฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ

อายุ-40-กินคอลลาเจนยี่ห้อไหนดีที่สุด

ช่วงอายุที่มีการสูญเสียคอลลาเจน

ในช่วงอายุ 25 ถึง 30 ปี เมื่อ อายุ 30 คอลลาเจน ที่มีในผิวพรรณของก็จะเริ่มเป็นริ้วรอยบางๆ ทอดยาวบริเวณหน้าผาก หรือมีริ้วรอยบางๆ ที่ร่องแก้มบริเวณข้างจมูก จนถึงเหนือริมฝีปาก ผิวที่เริ่มบางลงจะทำให้ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีลดลง คอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวก็จะเริ่มลดลงเช่นกัน

อายุ 30 ถึง 39 ปี ในช่วงอายุนี้กราะป้องกันผิวจะยิ่งมีความบอบบาง และอ่อนแอลง กระบวนการทำงานของเซลล์ผิวช้าลง ผิวจะมีลักษณะแห้งง่าย ขาดความชุ่มชื้น

คอลลาเจน อายุ 40 ถึง 49 ปี เกิดรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ใต้ขอบตาล่าง และหางตาเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น

รอยย่นข้างแก้ม และร่องแก้มลึก เริ่มมีจุดเล็กๆ สีน้ำตาลเกิดขึ้น เรียกว่าเป็นวัยเริ่มตกกระ จึงเป็นสาเหตุว่าเมื่อ อายุ 40 ทำไมต้องทาน collagen

อายุ 50 ถึง 64 ปี การพัฒนาของเส้นเลือดที่ช่วยในการหล่อเลี้ยงผิวในชั้นหนังแท้ลดลง จะเกิดรอยย่นตามร่องแก้มทอดยาวไปจนถึงบริเวณใต้มุมปากลึกมากขึ้น

อายุ 65 ปี ขึ้นไปผิวพรรณเริ่มหยาบกร้าน มีริ้วรอยทั่วใบหน้า และผิวพรรณทั่วร่างกาย ริมฝีปากเริ่มบางและมีรอยย่นบริเวณเหนือริมฝีปาก

การรับประทานคอลลาเจน

การเพิ่มเติมคอลลาเจนให้ผิวพรรณ

การนำสารสกัดโปรตีนคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายสามรถทำได้ 2 วิธี คือ
1 การรับประทานคอลลาเจน ซึ่งวิธีรับประทานเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายแถมยังได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วยนะคะ

2 การฉีดคอลลาเจน เข้าสู่ใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ เพราะคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างที่มีโมเลกุลใหญ่ จึงไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ด้วยการทา

ซึ่ง ผลิตภัณฑ์ครีมคอลลาเจน ต่างๆ ที่มีขายกันตามท้องตลาดที่มีส่วนผสมของคอลลาเจน จะเป็นการเติมคอลลาเจนให้อยู่บริเวณชั้นผิวหนังกำพร้าเท่านั้น และเนื่องจากคอลลาเจนมีคุณสมบัติในการอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัว เมื่อทาไปบนผิวจะทำให้ผิวหนังกำพร้ามีความชุ่มชื้นขึ้น

แต่ก็ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างแท้จริง เพราะการเสริมสร้างคอลลาเจนนั้น จะต้องเข้าสู่ผิวหนังได้ด้วยการรับประทานและการฉีดเข้าใต้ผิวหนังเท่านั้น

คอลลาเจน-ช่วยบำรุงผิวพรรณกระชับ

ประโยชน์ของคอลลาเจนเมื่อมีการรับประทานเข้าสู่ร่างกาย

1 สามารถช่วยให้ผิวมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น และลดเลือนริ้วรอย
2 คอลลาเจน ช่วยบำรุงผิวพรรณกระชับ เต่งตึง เนียนใส เปล่งปลั่ง อ่อนกว่าวัย
3 ช่วยเผาผลาญไขมัน และเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
4 ช่วยให้นอนหลับได้สนิทและลึกขึ้น
5 ช่วยบำรุงข้อต่อ จุดเชื่อมต่อ และกระดูก
6 ช่วยให้เหงือกและฟันมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น
7 ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ รวมถึงเล็บให้แข็งแรงสวยงามขึ้น

ผู้ที่ควร เริ่มทานคอลลาเจน อาจเริ่มตั้งแต่เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ซึ่งผิวเริ่มมีความต้องการคอลลาเจนในการบำรุงฟื้นฟูผิว คอลลาเจนที่ดีนั้นมักสกัดมาจากปลาทะเลน้ำลึก เพราะร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีและรวดเร็วซึ่งจริงๆ แล้ว อาหารที่เรารับประทานกันอยู่ทุกวันนี้ ถือเป็นแหล่งคอลลาเจนชั้นดีให้กับผิว

อาหารที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน

โดย อาหารที่มีส่วนประกอบของคอลลาเจน อยู่เป็นจำนวนมาก และหารับประทานได้ง่าย คือ อาหารที่เป็น เนื้อหมู เนื้อไก่ โดยคอลลาเจน จะซ่อนตัวอยู่ในโปรตีนของเนื้อสัตว์เหล่านี้ อีกทั้งในอาหารประเภทกระดูกอ่อน ทั้งในกระดูกอ่อนของหมู และไก่ ซึ่งสามารถเลือกนำไปปรุงเป็นอาหารประเภท ต้มซุปไก่ ต้มแซ่บกระดูกอ่อนหมู

ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากเราตั้งทิ้งไว้จนเย็น ก็จะเห็นน้ำซุปคล้ายๆ กับวุ้น สิ่งนั้นเองคือ “คอลลาเจน” ที่เราได้รับประทานเข้าไป แต่ทว่าก็อาจจะปนอยู่กับไขมันที่ลอยอยู่ด้านบนของน้ำแกงเหล่านั้นด้วย ถ้าไม่อยากอ้วนก็อาจช้อนมันที่ลอยอยู่ออกไปบ้าง ก่อนรับประทานก็ได้

คอลลาเจนที่พบได้ในเนื้อสัตว์

นอกจาก คอลลาเจนที่พบได้ในเนื้อสัตว์ ตามที่กล่าวมาแล้ว ยังสามารถพบคอลลาเจนได้จากปลาทะเลน้ำลึก ปลาทู ปลากระเบน หรือในผักและผลไม้ เช่น ถั่วเหลือง สาหร่ายทะเล เห็ด แตงกวา ขึ้นฉ่าย ส้มโอ แก้วมังกร แอปเปิ้ล เพียงแต่คอลลาเจนที่ได้จากผักและผลไม้ อาจน้อยกว่าคอลลาเจนที่ได้จากเนื้อสัตว์นั่นเอง

“แต่รู้หรือไม่ว่า” การรับประทานคอลลาเจน ไม่ได้จำกัดแต่เพียงเฉพาะแต่ผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายก็สามารถรับประทานคอลลาเจนได้เช่นกัน เนื่องจากว่ากิจกรรมของผู้ชายหลายๆ คน ที่มีการสังสรรค์ หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการสูบบุหรี่ รวมถึงการทำงานที่ต้องอยู่ภายใต้แสงแดดจัดๆ

ซึ่งเป็นตัวการในการทำร้ายผิว การเลือกทานคอลลาเจนเสริม ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยบำรุงร่างกายและดูแลสุขภาพผิวให้มีสุขภาพดีอีกทางนึ่งค่ะ