10 วิธีช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด ผิวหน้าไหม้ทำไงดี

0
219
วิธีช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

10 วิธีช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด ผิวหน้าไหม้ทำไงดี

10 วิธีช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด ต้องบอกเลยค่ะว่าถึงเพื่อนๆจะมีการระแวดระวังตัวกันขนาดไหน แสงแดดก็ยังเป็นศัตรูตัวร้ายที่คอยจ่องทำร้ายผิวพรรณของเราอยู่ตลอดเวลา เพราะแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆในแต่ละวันนั้นเราจะสามารถหลีกเลี่ยงแสงแดดได้ แถมยังมีเพื่อนๆบางคน

ที่ต้องทำงานในที่โล่งแจ้งต้องเจอกับแสงแดดอยู่ตลอด ส่งผลให้ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดดมีอาการไหม้ ระคายเคือง แสบคัน อักเสบ มีผื่นแดง อ่อนแอลง ซึ่งนำไปสู่ปัญหาผิวอื่นๆตามมาได้ หากเพื่อนๆคนไหนที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ วันนี้เรามีวิธีช่วยกู้ผิวพังไหม้ที่เกิดจากแสงแดดมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

แสงแดดผิวไหม้

“แสงแดด” นั้นมีองค์ประกอบมาจากคลื่นความถี่ ที่มีความแตกต่างกันตามความยาวของคลื่น โดยแสงที่สามารถมองเห็นได้จะมีความยาวคลื่นที่ 400 – 700 นาโนเมตร และแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างรังสีอัลตราไวโอเลต หรือ ที่เราเรียกว่าแสงยูวี (UV) จะมีความยาวคลื่นที่ 280 – 400 นาโนเมตร ซึ่งมีความยาวคลื่นสั้นสามารถเจาะทะลุเข้าไปยังเซลล์ผิวได้ง่ายทำให้เกิดอนุมูลอิสระต่อผิวหนังได้ค่ะ

รังสี UV นั้นมีด้วยกัน 3 รูปแบบดังนี้

1. UVA (รังสียูวีเอ) เป็นรังสีสำคัญที่สามารถก่อให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังของเราได้ เพราะเป็นรังสีอัลตราไวโอเลตที่ยาวที่สุด สามารถทะลุไปถึงชั้นผิวหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ได้ หากได้รับในปริมาณมากๆ จะส่งผลให้ผิวคล้ำ ขาดความยืดหยุ่น เหี่ยวย่น เกิดอนุมูลอิสระในผิวหนัง มีริ้วรอยก่อนวัยเกิดขึ้นได้ค่ะ

2. UVB (รังสียูวีบี) เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นรองลงมา เพราะจะถูกสกัดกั้นจากชั้นบรรยากาศซึ่งสามารถทะลุลงมาถึงผิวโลกได้ประมาณร้อยละ 0.1% ของรังสีทั้งหมด จึงไม่สามารถทะลุเข้าสู่ชั้นผิวหนังได้ลึกเท่ากับรังสี UVA แต่จะก่อให้เกิดอาการแสบร้อน แดง ไหม้ สูญเสียความชุ่มชื้นของผิวหนังภายนอกได้ค่ะ

3. UVC (รังสียูวีซี) เป็นรังสีที่ความยาวคลื่นสั้นที่สุดและสามารถถูกกรองได้ทั้งหมดที่ชั้นโอโซนของโลก แต่ในปัจจุบันนั้นชั้นโอโซนถูกทำลายด้วยมลพิษที่มนุษย์ก่อขึ้น ส่งผลให้ชั้นโอโซนเกิดบางลง รังสี UVC สามารถทะลุมายังพื้นโลกได้มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อผิวหนังและดวงตาของเราได้ค่ะ

กู้ผิวพังไหม้แดดได้ง่ายเพียงทำตาม 10 วิธีดังนี้

ประคบเย็นช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

1. ประคบเย็น สืบเนื่องมาจากผิวของเรานั้นถูกแสงแดดดึงความชุ่มชื้นออกไปทำให้ผิวเกิดการสูญเสียน้ำอย่างหนัก การประคบเย็นถือเป็นวิธีการที่ช่วยคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวและเป็นวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ช่วยลดอุณหภูมิหลังถูกทำร้ายจากแสงแดด

โดยการใช้ผ้าขนหนูห่อถุงเย็นหรือน้ำแข็งจากนั้นประคบไปยังผิวหนังที่ไหม้แดด ไม่ควรประคบทิ้งไว้นานเกินไปเพราะอาจส่งผลเสียต่อผิวได้ควรมีการพักทุกๆ 15 นาทีค่ะ

ไม่ขัดตัวช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

2. ไม่ขัดผิวทันที หลังจากที่ผิวของเพื่อนไหม้แดด เกิดคล้ำเสีย ขอให้จงจำไว้เลยนะคะว่าอย่าพึ่งรีบเร่งฟื้นฟูผิว ด้วยการขัดผิวบ่อยๆ เพราะหลังจากผิวไหม้แดดนั้นผิวพรรณจะอยู่ในช่วงที่อ่อนแอมากๆ

อาจเกิดการระคายเคืองซึ่งเป็นการซ้ำเติมผิวมากกว่าเดิมได้ค่ะ แนะนำให้รอผิวแข็งแรงขึ้นก่อน ใช้เวลาประมาณ 1 – 2 อาทิตย์แล้วจึงมีการขัดผิวค่ะ

ทานอาหารบำรุงผิวช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

3. ทานอาหารบำรุงผิว ช่วงนี้อาหารที่เพื่อนๆควรเน้นทานมากๆ นั่นคืออาหารประเภทผักและผลไม้ ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

เพราะสามารถช่วยในการฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวหนังที่ถูกทำร้ายจากแสงแดดได้ดี ช่วยชะลอเกิดริ้วรอย และป้องกันผิวเหี่ยวย่นไม่ให้ดูแก่ก่อนวัย โดยผักและผลไม้ที่แนะนำได้แก่ ผักโขม ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า มะละกอ ฝรั่ง ส้ม และแตงโมเป็นต้นค่ะ

เลี่ยงการสัมผัสแดดโดยตรง

4. เลี่ยงการสัมผัสแดดโดยตรง ผิวที่ไหม้แดดเป็นผิวที่อ่อนแอและไวต่อแสงแดดมากกว่าสภาพปกติ หากเป็นไปได้ในช่วงแรกควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุด เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้

แสบคัดซ้ำเติมผิวมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นหากต้องเผชิญกับแสงแดดโดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่าลืมที่จะสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดคลุมผิว หรือมีการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 – 50 เพื่อป้องกันรังสี UV ด้วยนะคะ

ไม่ลอกผิวช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

5. ไม่ควรลอกผิวหนัง การลอกผิวหนังที่ไหม้แดดหรือการเจาะตุ่มน้ำใส จะทำให้ผิวหนังเกิดอาการระคายเคือง อาจยิ่งเพิ่มระดับความรุนแรงให้ผิวหนังอ่อนแอไปมากกว่าเดิม

ทางดีที่สุดไม่ควรลอกผิวหนังหรือมีการสัมผัสบริเวณผิวที่ไหม้แดด แต่ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอยู่เสมอ เพียงแค่ใช้เนื้อของว่านหางจะเข้ปั่นให้ละเอียดนำมาพอกทิ้งไว้บริเวณที่ผิวไหม้แดดประมาณ 20 นาทีแล้วล้างออกจะช่วยลดอาการอักเสบ แสบร้อน ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นได้ค่ะ

ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน-ช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

6. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เป็นที่รู้กันดีค่ะว่าผิวที่ไหม้แดดมานั้นจะมีความบอบบางเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรเลือกใช้ผลิภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนโยนไม่ทำร้ายและซ้ำเติมผิวให้แย่เข้าไปอีก

และที่สำคัญไม่แพ้กันอีกอย่างคือหลังจากอาบน้ำเสร็จควรหาผ้าเช็ดให้แห้งอย่างเบามือ ไม่ควรขัดถูเพราะจะเพิ่มการระคายเคืองและจบด้วยครีมบำรุงผิวที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นจะดีต่อผิวมากๆเลยค่ะ

ดื่มน้ำเพียงพอช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

7. รักษาปริมาณน้ำให้เพียงพอ ผิวหนังที่ไหม้แดดเป็นผิวที่อยู่ในสภาวะขาดน้ำ ซึ่งต้องการปริมาณน้ำที่เพียงพอในการชดเชยน้ำที่สูญเสียไป ดังนั้นการรักษาระดับน้ำในร่างกายให้เพียงพอต่อวัน

จะช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวหนังที่ไหม้แดดได้ดี อีกทั้งเมื่อร่างกายมีระดับน้ำที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้นฟื้นตัวอาการผิวแห้ง แสบแดงได้ดีค่ะ

แช่น้ำนมช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

8. แช่น้ำนม เพื่อนๆคงเคยได้ยินกันอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ คำที่ว่าอาบน้ำแร่แช่น้ำนม ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัยและมีสุขภาพที่ดีขึ้น ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงการแช่น้ำนมช่วยกู้ผิวไหม้แดดกันค่ะ

เพียงแค่เท“นมพลาสเตอร์ไลท์ลงในอ่างอาบน้ำประมาณ 5 – 10 กล่อง แล้วลงไปแช่น้ำนมจะช่วยลดอาการปวดแสบ ปวดร้อน คืนความชุ่มชื้นให้ผิว หากผิวไหม้แดดไม่กินบริเวณกว้างใช้เพียงผ้าขนหนูชุบน้ำนมแล้วมาวางบนส่วนที่ผิวไหม้เท่านี้ก็ช่วยให้ผิวหนังฟื้นฟูตัวเองได้ดีขึ้นแล้วค่ะ

ประคบถุงชาช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

9. ประคบด้วยถุงชา ถุงชาเมื่อชงดื่มเสร็จเรียบร้อยแล้วเพื่อนๆอย่าพึ่งทิ้งไปเปล่าๆนะคะ เพราะนอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยเรื่องการย่อยแล้ว

ถุงชาเมื่อชงเสร็จแล้วยังสามารถนำมาประคบตามผิวหนังเพื่อช่วยลดอาการอักเสบ แสบร้อน ไหม้แดดได้ดีอีกด้วย เพียงแค่นำถุงชาไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที แล้วนำมาประคบตามผิวหนังเท่านี้ก็จะช่วยกู้ผิวพังไหม้แดดได้แล้วค่ะ

อาบน้ำเย็นช่วยกู้ผิวพังไหม้แดด

10. เลือกอาบน้ำเย็น การที่เพื่อนๆอาบน้ำเย็นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูผิวจากการไหม้แดดแบบเร่งด่วน เพราะน้ำเย็นจะช่วยลดอาการอักเสบจากการไหม้แดด ช่วยให้ร่างกายที่กักเก็บความร้อนนั้นมีการเย็นตัวลง นอกจากนี้เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วให้นำผ้าขนหนูมาชุบน้ำเย็นประคบบริวเณผิวหนังที่ไหม้จะช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีมากขึ้นค่ะ